Skip to content
2 min read AI for Business

วิเคราะห์ Temu: ยักษ์ใหญ่ E-Commerce ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

วิเคราะห์ Temu: ยักษ์ใหญ่ E-Commerce ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ทำไม ถึงบุกไปที่ไหน ก็ขยายตลาดอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อความเป็นผู้นำตลาดในประเทศนั้น?

หน้าเว็บ https://www.temu.com/
หน้าเว็บ https://www.temu.com/

เราคงเห็นกันแล้วว่า E-Commerce รายใหญ่ ผู้เล่นหน้าใหม่จากจีน ที่เปิดบริษัทมาได้ไม่กี่ปี ใช้เวลารวดเร็วในการบุกเข้าตีตลาดอเมริกา ประเทศที่ถูก Amazon ที่ยึดหัวหาด E-Commerce มายาวนานนับสิบปี จนเสียส่วนแบ่งตลาดไปในแบบที่ไม่เคยมีคู่แข่งรายไหนทำได้มาก่อนในตลาดนี้

ความสำเร็จของ Temu ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากกลยุทธ์ที่วางแผนมาอย่างดี

การแข่งขันดุเดือดในสหรัฐอเมริกา

เบื้องหลังความสำเร็จ

เราเห็นภายนอก อาจจะเห็นแค่การลดราคา ทุ่มตลาด เพื่อแย่ง market share และแข่งขันอย่างรุนแรง

แต่กลยุทธ์เบื้องหลังอีกหลายอย่างที่ Temu ใช้ ซึ่งในฐานะคนทำธุรกิจ ซึ่งเป็นเคสที่น่าศึกษาเรียนรู้

ถึงสู้ไม่ได้ แต่รู้ไว้ว่า การที่จะทำแบบนี้ได้ มันต้องวางแผนยังไง คิดยังไง ทำยังไง น่าจะเป็นประโยชน์ และนำมาปรับใช้ในธุรกิจเราเองได้

Background ของ Temu

มาดูกันบ้างว่ากลยุทธ์ที่ Temu ใช้ มีอะไรบ้าง

กลยุทธ์หลักของ Temu

1. Business Model : Direct-to-Consumer (DTC)

2. Efficient Supply Chain Management

3. ระบบ Logistic

4. Pricing Strategy แบบ Loss Leader

กลยุทธ์ราคานี้เป็นที่นิยมในวงการ E-Commerce เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด แต่ก็มีความท้าทายในด้านความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว และอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์หากไม่สามารถรักษาคุณภาพสินค้าและบริการได้

5. Influencer Partnership

6. เทคโนโลยีด้าน AI บนแพลตฟอร์ม

ตรงนี้ เป็น Key Success Factors ของ Amazon มาก่อนเช่นกัน และแพลตฟอร์ม E-Commerce ส่วนใหญ่ก็มีทั้งนั้น

ดังนั้นโรงงานจะรู้แล้วว่าลูกค้าอยากได้สินค้าแบบไหน อะไรที่มันฮิต ก็ทำอันนั้นออกมา อะไรไม่น่าจะฮิต ก็ทำน้อยๆหรือไม่ทำเลยเรียกว่าเป็นการ reverse-manufactoring ที่จากเดิมโรงงานผลิตของมาขาย แล้วก็หวังว่ามันจะขายได้ โดยที่ไม่รู้ demand ของคนซื้อแบบ real-time มาก่อน

หน้าเว็บ www.wish.com
หน้าเว็บ www.wish.com

กลยุทธ์ของ Temu ได้ผลดีจริงหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อในระยะยาว?

อันนี้ตั้งเป็นคำถามไว้ก่อนนะครับ ยังตอบไม่ได้ ณ ตอนนี้ เพราะเค้าเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน แต่ผมมีเคสที่ใกล้เคียงกันมาเล่าให้ฟัง

ช่วงที่ผมอยู่อเมริกา (ปี 2015) ก็มีบริการ E-Commerce เจ้านึงชื่อ Wish ที่เติบโตเร็วมาก และใช้รูปแบบวิธีการแบบ Temu ในการแข่งกับ Amazon

ในฐานะผู้ท้าชิงหน้าใหม่ Wish ขายสินค้าราคาถูกกว่า ค่าส่งถูกกว่า Amazon และส่งเร็วกว่า ผมเคยสั่งพวกของใช้จาก Wish มาหลายอย่าง คิดว่านี่แหละ ผู้ท้าชิง Amazon ตัวจริง

แต่เมื่อต้นปี 2024 Wish ก็ได้ขายกิจการเรียบร้อย ด้วยมูลค่าร้อยกว่าล้านดอลลาร์ จบปิดท้ายด้วยความล้มเหลว

ปัญหาที่ Wish เจอในวันนั้น เป็นปัญหาเดียวกับที่ Temu เจอในวันนี้ คือ

คุณภาพสินค้า การเจอของปลอม จนมีคดีความฟ้องร้อง

ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหาย ขาดความน่าเชื่อถือ

และโลกธุรกิจ การใช้กลยุทธ์ราคา ไม่ได้ทำให้ชนะหรือมีแต้มต่อคนอื่นเสมอไป

Profitability และ Sustainability สำคัญสุดๆ

ความท้าทายและความเสี่ยงของ Temu

แม้ Temu จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็เผชิญกับความท้าทายและจุดอ่อนหลายประการ:

มุมมองจากผู้บริโภค

Temu ได้รับทั้งเสียงชื่นชมและคำวิจารณ์จากผู้ใช้:

ด้านบวก:

ด้านลบ:

การดำเนินงานในตลาดอื่นๆ

แม้ Temu จะประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา แต่ก็กำลังขยายตัวในตลาดอื่นๆ ด้วย:

ในแต่ละตลาด Temu ต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคและกฎระเบียบท้องถิ่น

การคาดการณ์อนาคตของ Temu

  1. การขยายตลาด: คาดว่า Temu จะขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และละตินอเมริกา
  2. การพัฒนาเทคโนโลยี: Temu อาจลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อปรับปรุงระบบแนะนำสินค้าและการจัดการ Supply Chain
  3. การเพิ่มหมวดหมู่สินค้า: อาจมีการขยายไปสู่หมวดหมู่สินค้าใหม่ๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม หรือบริการดิจิทัล
  4. การพัฒนาแบรนด์เฉพาะ: Temu อาจพัฒนาแบรนด์สินค้าของตัวเองเพื่อเพิ่มอัตรากำไรและสร้างความแตกต่าง
  5. การปรับปรุงด้านความยั่งยืน: เนื่องจากแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม Temu อาจต้องปรับปรุงนโยบายด้านความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม
  6. การรับมือกับกฎระเบียบ: คาดว่า Temu จะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและการแข่งขันทางการค้า

ในฐานะเจ้าของธุรกิจ SME การแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ e-commerce อย่าง Temu อาจดูเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยครับ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจจุดแข็งของตัวเองและหาช่องทางที่แตกต่างเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

กลยุทธ์ที่ SME สามารถนำไปปรับใช้ได้:

  1. เน้นคุณภาพและความแตกต่าง: สร้างเอกลักษณ์และเรื่องราวของแบรนด์
  2. บริการลูกค้าเหนือชั้น: ให้ประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่ให้คำแนะนำจนถึงบริการหลังการขาย
  3. ใช้ Social Commerce และสร้าง Community: เข้าถึงลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย สร้างกลุ่มลูกค้าที่ภักดี
  4. ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ: แลกเปลี่ยนทรัพยากรและสร้างโอกาสร่วมกัน
  5. ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด: นำ CRM, digital marketing tools มาเพิ่มประสิทธิภาพ
  6. หลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา: เน้นคุณค่าและคุณภาพมากกว่าราคาถูก
  7. มองหาช่องว่างในตลาด: หา niche market ที่ Temu ยังเข้าไม่ถึง

สิ่งสำคัญ :

แต่ลองมอง Temu เป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาธุรกิจของเราเอง

อาจจะพูดง่ายทำยากนะครับ เพราะการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่มันเป็นเรื่องยากจริงๆ แต่เราต้องมั่นใจจุดแข็งของธุรกิจตัวเองและไม่หยุดพัฒนา

มันมีแจ้คผู้ฆ่ายักษ์ให้เห็นอยู่เรื่อยๆในโลกธุรกิจ

สิ่งที่น่าสนใจและน่าติดตามต่อ

  1. กลยุทธ์การเล่นสงครามราคาของ Temu จะได้ผลแค่ไหนในระยะยาว เพราะคนที่เล่นเกมนี้ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครประสบความสำเร็จ เพราะจะได้ลูกค้าที่อ่อนไหวต่อราคา ขาด loyalty ต่อแพลตฟอร์ม และมี switching cost ที่ต่ำ พร้อมจะเปลี่ยนไปยังสิ่งที่ถูกกว่าหรือดีกว่าเสมอ
  2. ธุรกิจ SME รายย่อยเล็กๆ ย่อมได้รับผลกระทบจากสงครามราคาแน่นอน แต่กลยุทธ์ด้านราคา ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก และคนที่ใช้กลยุทธ์ราคา ไม่ได้เป็นผู้ชนะเสมอไป
  3. ธุรกิจ SME ไทยควรปรับตัวในการแข่งขันยังไง? เป็นเรื่องที่น่าคิด น่าแชร์มากๆ ผมคิดว่าหลายคนมีมุมมองและวิธีการที่ดีมากๆ ในการเตรียมรับมือ ปรับตัว และแข่งขัน ถ้าเราแชร์ความรู้และประสบการณ์เหล่านี้ได้ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวครับ

ความได้เปรียบของ Temu และความท้าทายของ SME ไทยในยุค E-Commerce

ความได้เปรียบของ Temu:

1. การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน:

2. ขนาดและทรัพยากร:

3. ความได้เปรียบด้านต้นทุน:

สถานการณ์ของ SME ไทย:

แนวทางรับมือสำหรับ SME ไทย:

1. สร้างความแตกต่างและคุณค่า:

2. พัฒนาแบรนด์ที่แข็งแกร่ง:

3. ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี:

4. ร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน:

5. สร้างเครือข่ายและพันธมิตร:

บทบาทของรัฐบาลไทย:

1. ออกนโยบายสนับสนุน SME:

2. ส่งเสริมการใช้ E-Commerce:

3. สร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันและปกป้องผู้บริโภค:

โดยการดำเนินการตามแนวทางข้างต้น SME ไทยจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและปรับตัวให้อยู่รอดในยุค E-Commerce ที่มีการแข่งขันสูงได้​​​​​​​​​​​​​​​​

ประชาสัมพันธ์

สำหรับท่านที่สนใจเรื่องการนำ AI ไปใช้งานในองค์กร ธุรกิจ
บริษัท Slingshot จัดสัมมนาและ Workshop ในหัวข้อ “Future Leaders : From AI-Driven to Organizational Impact”

ท่านใดสนใจ ดูรายละเอียดได้จากลิงค์นี้ครับ คลิก

https://www.slingshot.co.th/course/future-leaders

กรอก FTLA9 ในช่องคูปองมีส่วนลดให้ 25% ครับ